ถือว่าเป็นอีกหนึ่งภัยร้ายที่น่ากลัวมากทีเดียว สำหรับการจู่โจมทางไซเบอร์ ที่เหล่าแฮคเกอร์จะเข้าโจมตีเซิฟเวอร์ขององค์กรใหญ่ เพื่อเรียกค่าไถ่ โดยจับเอาข้อมูลเป็นตัวตัวประกัน หลายบริษัทก็ต้องยอมจ่ายเพื่อปกปิดข้อมูล แต่อีกหลายแห่งไม่ยอมจ่ายปรากฏว่าโดนถล่ม เจาะเละเลย เคสของแมนยูคราวนี้ถือว่าเป็นภัยร้ายรูปแบบใหม่ที่อาจจะต้องมาป้องกัน
การโจมตี
เรื่องราวของข่าวนี้ต้องย้อนกลับไปว่า แมนยู มีข่าวถูกปล่อยออกมาว่า พวกเค้าโดนแฮคเกอร์จู่โจมแบบ แรนซัมแวร์ กล่าวคือมีการเข้าถึงรหัส ข้อมูล เซิฟเวอร์ของแมนยู จากนั้นล็อคเอาไว้ ถ้าหากต้องการจะได้คืนจะต้องจ่ายเงิน ตอนแรกแมนยูไม่ยอม แต่มาล่าสุดเหมือนทางแฮคเกอร์จะเพิ่มระดับการโจมตีมากขึ้น ทำให้แมนยูอาจจะลำบากได้เลยหากพวกเค้าไม่ยอมทำตามเงื่อนไขเหล่านั้น
ฐานข้อมูลสโมสร
อย่างแรกเลยที่เรามองว่า เป็นสิ่งที่ทำให้แมนยูต้องยอม คงเป็นเรื่องฐานข้อมูลของทีมที่เก็บมาอย่างยาวนาน เอาแค่เรื่องของนักเตะที่เคยมาค้าแข้งกับแมนยู ตั้งแต่ระดับชุดใหญ่ จนถึงระดับ เยาวชนเล็กสุด เท่านี้ก็มีข้อมูลนักเตะนับ 1,000 กว่ารายที่เวียนว่าย เข้าออกอยู่ในระบบ ซึ่งข้อมูลทั้งหมดคงไม่ได้มีเพียงแค่ข้อมูลพื้นฐานในการซ้อมเท่านั้น อาจจะมีข้อมูลส่วนตัวที่สำคัญมากอย่างเลขประจำตัวประชาชน เลขพาสปอร์ต อาจจะรวมไปถึงเลขบัญชีที่ใช้งานของนักเตะเหล่านั้นด้วย ซึ่งของเหล่านี้หากหลุดออกไปอาจจะเป็นอันตรายต่อตัวนักเตะอย่างมาก แม้ว่านักเตะเหล่านั้นไม่ได้เป็นสมาชิกของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดแล้วก็ตามที
ฐานข้อมูลแฟนบอล
อีกหนึ่งจุดที่แมนยูอาจจะต้องยอมจ่ายเพื่อป้องกันเหตุ ก็คือ ฐานข้อมูลของแฟนบอล ที่อยู่ในฐานข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลลูกค้าที่ซื้อตั๋วรายปี ตั๋วชั่วคราว และอีกมากมาย ซึ่งหากข้อมูลตรงนี้หลุดออกไปเท่ากับว่าเป็นแหล่งข้อมูลชั้นดีของเหล่าอาชญากรที่พร้อมจะสร้างความโกลหลอีกมากมายทีเดียว นี่ยังไม่นับความน่าเชื่อถือของทีมที่จะถูกลดทอนลงมาเยอะเลยจากเคสดังกล่าว จากเคสนี้ เชื่อเลยว่าทีมอื่นอาจจะต้องปรับปรุง พัฒนาเรื่องนี้เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองต้องโดนเป็นรายต่อไป